หากใครเป็นแฟนของวงฟังก์ร็อคชื่อดังอย่าง Green Day จะต้องรู้จักกับเพลงดังที่ชื่อว่า Wake Me Up When September Ends อย่างแน่นอน ด้วยท่วงทำนองที่ไม่มีอะไรซับซ้อนมากนัก บวกกับเสียงร้องของ บิลลี โจ อาร์มสตรอง (Billy Joe Armstrong) เลยทำให้เพลงWake Me Up When September Endsกลายเป็นเพลงฮิตติดหูผู้ได้อย่างรวดเร็ว แต่ใครจะรู้ว่าเพลงนี้นั้นกลับแฝงด้วยความหมายที่แสนเศร้า
ย้อนกลับไปในวันที่ 1 กันยายน ปี 1982 วันที่หัวใจของเด็กน้อยนามว่า Billy Joe Armstrong ต้องแหลกสลายกับการจากไปแบบไม่วันกลับของคุณพ่ออันเป็นที่รักด้วยโรคมะเร็งเด็กชายบิลลี่ ได้แต่ร้องไห้ก่อนที่จะขังตัวเองไว้ในห้อง แม้ว่าคุณแม่จะเรียกเท่าไหร่แต่บิลลี่ไม่ยอมออกมาพร้อมกับตะโกนเป็นประโยคว่าWake Me Up When September Endsซ้ำแล้วซ้ำเล่า จากนั้น Billy Joe Armstrong ได้ตัดสินออกจากบ้านและได้กลายเป็นนักดนตรีที่มีชื่อเสียง
เนื้อหาของเพลงWake Me Up When September Endsนอกจากจะเป็นการรำลึกถึงคุณพ่อแล้ว ยังได้เล่าถึงเรื่องราวของ Billy Joe Armstrong โดยในเพลงจะมีท่อนหนึ่งที่ร้องว่า “Like my Father’s gone to pass. Seven years has gone so fast” นั่นคือตอนที่บิลลี่เขียนเพลงนี้อยู่ในช่วงอายุ 17 – 18 ปี เป็นเวลา 7 ปีหลังจากที่คุณพ่อเสีย และในเนื้อเดียวกันแต่เปลี่ยนจาก 7 เป็น 20 นั่นคือปีที่บิลลี่บันทึกเสียงเพลงนี้ (ปี 2002) ซึ่งนั่นแปลว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาไม่เคยลืมพ่อของเขาได้เลย
Wake Me Up When September Ends ยังบอกเล่าเรื่องราวของ Billy Joe Armstrong
ที่ออกมาใช้ชีวิตด้วยลำแข้งของตัวเอง และด้วยเนื้อหาเพลงที่มีความหมายทำให้Wake Me Up When September Endsได้กลายเป็นบท เพลงยุค90 ที่เอาไว้เพื่อระลึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับชาวอเมริกันในเดือนกันยายน ตั้งแต่เหตุการณ์ 9/11 จนมาถึง เหตุการณ์พายุเฮอริเคนแคทรินาที่ถูกยกให้เป็นเหตุการณ์ทางธรรมชาติที่รุนแรงที่สุดของสหรัฐฯ
หากใครที่ยังไม่เคยแล้วอยากจะรับรู้ถึงเรื่องราวของการสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักกับเพลงสามารถหาดาวน์โหลดได้ใน Google และหาฟังได้ที่ Youtube รับรองว่าWake Me Up When September Ends จะเข้าไปสั่นคลอนหัวใจได้อย่างแน่นอน
มาดูอีกหนึ่งเว็บไซต์เกมที่กำลังมาแรงในตอนนี้อย่างเว็บไซต์ JokerSlot666 ด้วยเอฟเฟ็กเกมที่น่าตื่นเต้นและสีสดที่สวยงาม แถมเล่นแล้วได้ตังใช้อีกด้วยนะคะ