เพลงประกอบละคร
เพลงยุค90เพลงไทย

เพลงประกอบละคร “ฉก.เสือดำ ถล่มหินแตก” ปี 2539 ทำไมต้องมีสองเวอร์ชั่น

หากพูดถึงละครในยุค 90 ที่โด่งดังมาก โปรดักชั่นดีเยี่ยมระดับโลก ต้องยกให้ละครเรื่อง “ฉก.เสือดำ ถล่มหินแตก” ซึ่งเป็นละครที่โด่งดังมากเพื่อสดุดีให้กับทหารกล้าที่ทำภารกิจปราบขุนส่า ราชายาเสพติดในยุคนั้นที่ครอบคลุมพื้นที่ชนกลุ่มน้อย และเป็นการระลึกถึงภารกิจที่บ้านหินแตก ซึ่งกลายเป็นละครระดับ Masterpiece แห่งยุค และการถ่ายทำลงทุนสูงมาก ฉากแต่ละซีนมีความหฤโหดเอาเรื่อง แต่พอถ่ายทอดมาเป็นละคร เรียกได้ว่าสวยสมจริง ภาพทุกภาพในแต่ละฉากมีครบรสชาติสมราคากับละครดังขึ้นหิ้งในตำนานที่ใครๆ อยากให้นำกลับมารีเมคอีกครั้ง และทุกฉากโหดจัดอย่าบอกใครเลยล่ะ แต่ที่มีข้อสงสัยกันว่าทำไม เพลงประกอบละคร ที่ใช้ชื่อเดียวกับละครอย่าง “ฉก.เสือดำ ถล่มหินแตก” ว่าทำไมต้องทำเพลงมาเป็นสองเวอร์ชั่น ซึ่งจะมาไขข้อสงสัยและรีวิวผ่านบทความได้ดังนี้

เพลงประกอบละคร

               เนื่องด้วยละคร “ฉก.เสือดำ ถล่มหินแตก” เป็นละครที่เกี่ยวข้องด้านการทหารและเกี่ยวข้องเรื่องการจับกุมยาเสพติดอย่างเฮโรอีน ซึ่งเป็นยาเสพติดร้ายแรง จัดเป็นยาเสพติดประเภทที่ 1 เพื่อปราบปรามให้คนมีอิทธิพลให้สิ้นซาก แต่เพลงประกอบละครที่ทำมาเป็น 2 เวอร์ชั่นเพื่อให้ได้ความรู้สึกที่แตกต่างกันแม้ว่าจะเป็นเพลงที่เนื้อร้องเดียวกันก็ตาม ซึ่งมีความน่าสนใจซึ่งจะแยกแยะแต่ละเวอร์ชั่นที่ให้ความรู้สึกต่างกันในมุมมองของผู้เขียนได้ดังนี้ เพลงยุค 90

เพลงประกอบละคร
  • “ฉก.เสือดำ ถล่มหินแตก” เวอร์ชั่น “ปู แบล็กเฮด” เนื้อร้องของ เพลงประกอบละคร เวอร์ชั่นนี้จะออกไปทางสดุดีทหารกล้ามากกว่า การถ่ายทอดน้ำเสียงจะตีความไปทางทหารโดยตรง ที่ต้องลุยภารกิจเพื่อปราบเจ้าพ่อยาเสพติดให้สิ้นซาก สะท้อนให้เห็นพื้นที่ในภาคเหนือเต็มไปด้วยสมรภูมิเสียงปืนและคราบเลือด อีกทั้งยังมีความเป็นเพลงปลุกใจ กึ่งๆ เพลงมาร์ชที่ร้องตามสวนสนาม ไม่ค่อยเอื้อนเยอะมากสักเท่าไหร่เหมือนเพลงปกติ ค่อนข้างจะขนลุกมากกว่า
  • “ฉก.เสือดำ ถล่มหินแตก” เวอร์ชั่น “กบ ไมโคร” ถ้าฟังน้ำเสียงดีๆ จะรู้ทันทีว่านักร้องคนละคนกันอย่างแน่นอน แม้ว่าจะเป็นเพลงประกอบละครเรื่องเดียวกัน การถ่ายทอด การตีความจะออกไปทางมุมมองของพลเรือนที่ได้เห็นความกล้าหาญ ความเสียสละมากกว่า มีความดิบ มีความเอื้อนแบบเพลงสากลสูงมาก ทำให้การฟังค่อนข้างจะลื่นหูกว่าเวอร์ชั่นแรกที่เน้นความร็อคมากกว่า และเป็นตัวเล่าเรื่องมุมมองของทหารเล่าให้พลเรือนฟังมากกว่าเวอร์ชั่นแรกเสียอีก