ท่องไปในยามราตรี…. คำนี้คงเป็นคำที่หลายคนคงเคยได้ยินและคุ้นหูกันเป็นอย่างมาก ถ้าหากได้ยินคำนี้ขึ้นมาปุ๊บคุณจะต้องใส่ทำนองขึ้นมาโดยอัตโนมัติ นั่นมันก็คือเพลงดังอย่าง เพลงกะหล่ำปลี นั่นเองค่ะ ที่โด่งดังเป็นอย่างมากในยุค 90  

ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ต่าง ๆ ก็มักจะเปิดเพลงนี้กันเป็นประจำ และวันนี้นักเขียนจะได้มารีวิวเพลงยุค 90 สุดดังจากโจอี้ บอย กับบทเพลงกะหล่ำปลี ที่จะพาทุก ๆ คนไปท่องโลกแห่งความสนุกสนานจากเฮียโจ้ และบทเพลงสุดไพเราะจนถึงยุคปัจจุบัน

รีวิวเพลงยุค 90 สุดดังจากโจอี้บอย กับบทเพลงกะหล่ำปลี นับว่าเป็นประวัติการอย่างมากสำหรับเพลงและอัลบั้มสุดฮิตจากโจอี้บอยในยุค 90 ที่ได้ปล่อยซิงเกิ้ล เพลงกะหล่ำปลี ออกมาให้กับชาวสยามได้ชื่นชมและมักเป็นเพลงย้อนยุคที่นิยมตั้งแต่ช่วงออกสู่ตลาดจนถึงปีปัจจุบัน ไม่ว่าเฮียโจ้จะไปรายการโชว์ที่ไหน ก็จะต้องมีเพลงนี้อยู่เสมอ

โดยเพลงนี้นอกจากจะเป็นเพลงที่สนุกสนานสามารถเต้นหรือสามารถนำไปโชว์สเต็ปภายในสถานบันเทิงได้แล้ว เพลงนี้ยังมีความหมายที่ดีมาก ๆ อีกด้วย แต่จะมีสักกี่คนที่จะรู้ความหมายของเพลงกะหล่ำปลีโดยแท้จริง ซึ่งอันที่จริงจากการสัมภาษณ์ของเฮียโจ้ได้บอกว่า เพลงรักหรือเพลงหลาย ๆ เพลงที่ได้แต่งนั้นก็มักจะแต่งให้แฟนเก่าคนนึงที่อยู่ต่างประเทศในสมัยเรียน แต่ต้องเลิกรากันไป

เพลงกะหล่ำปลี เพลงสนุกสุดมันส์ในยุค 90

โดยเพลงนี้ก็ได้มีความหมายเกี่ยวกับความรักของหนุ่มสาวที่สุดสวีทไปในยามค่ำคืน แต่ไม่ได้หวานไพเราะอะไรขนาดนั้นนะคะ เพราะเป็นเพลงที่เชิงสนุกสนานเสียมากกว่า จนทำให้เพลงนี้มักนำไปเปิดในรถบัสนำเที่ยว และนำไปเปิดในสถานบันเทิงเพื่อให้หลายคนได้โยกย้ายส่ายสะโพกกันไปเป็นแถว ๆ พร้อมกับเพลงสาละวันเตี้ยลง ซึ่งก็เป็นบทเพลงที่ดีอีกบทเพลงหนึ่งเลยนะคะ สำหรับการรีวิวเพลงยุค 90 ของเฮียโจ้

โดยจริง ๆ แล้วก็เพียงต้องการจะสื่อถึงความรักที่หญิงสาวกับชายหนุ่มมีให้ต่อกันและได้ใช้ชีวิตกันแบบผู้คนทั่วไปและหลงไปกับแสงในยามค่ำคืน เป็นอย่างไรบ้างคะกับการรีวิวเพลงยุค 90 สุดดังจากโจอี้บอยกับบทเพลงกะหล่ำปลี นักเขียนคิดว่าหลายคนคงจะคุ้นเคยกับเพลงนี้กันเป็นอย่างดีเลยนะคะ เพราะนอกจากจะมีความหมายที่ดีแล้ว ยังเป็นเพลงไทยที่มีจังหวะสนุกนำมาเป็นบทเพลงที่เหมาะสำหรับการเต้น